ABOUT

SBK Group ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจด้านการก่อสร้างที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน 3 ส่วน ประกอบด้วยการรับสร้างบ้าน รับสร้างระบบสาธารณูปโภค และ ร้านค้าวัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจทั้ง 3 ส่วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ SBK Group สามารถขับเคลื่อนและรับงานก่อสร้างได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง

​

โครงการบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ภายใต้แบรนด์ ลดาวัลย์ VIVE นันทวัน มัณฑนา ชลลดา สีวลี ชัยพฤกษ์ พฤกษ์ลดา ธาริณี อิงลดา บุศรินทร์ บ้านใหม่ The Terrace หรือ Inizio ในบพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลล้วนมี SBK Group เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งแบรนด์เหล่านี้เป็นของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำทางในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยทุกโครงการมีมาตรฐานสูงและเน้น คุณภาพ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ฯ จึงกินส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับแรกๆ ของประเทศและเบื้องหลังความสำเร็จของโครงการคุณภาพต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นก็มี SBK Group เป็นเบื้องหลังรวมทั้งได้ร่วมกันพัฒนาวิธีการทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้งานคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2530 จนถึงปัจจุบัน 

PRODUCT & SERVICE

Quality is The Key

​

กว่า 35 ปี ในธุรกิจก่อสร้างที่เน้นคุณภาพเป็นหัวใจของงานทำให้ SBK Group ได้เพิ่มพูนประสบการณ์และผ่านวิฤกตด้วยการปรับตัวอย่างต่อเนื่องและทันสมัย

​

ในปี 2540 เป็นปีที่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกิดวิกฤตอย่างมากแต่ บุคลากรที่มีความร่วมมือร่วมใจกันสามารถทำให้ เอสบีเค กรุ๊ป ได้ผ่านวิกฤตมาได้ และเรียนรู้ในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา

​

ในปี 2554 วิกฤติน้ำท่วมใหญ่ เอสบีกรุ๊ป ได้อยู่ในวงล้อมของมวลน้ำแต่สามารถกั้นมวลน้ำไม่ให้ท่วมพื้นที่สำนักงานและโรงงานได้ในอำเภอบางบัวทอง ทั้งยังเป็นหน่วยช่วยเหลือให้กับหลายหน่วยงานของ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในการป้องกันและบรรเทาภัยน้ำท่วม ณ ขณะนั้น ยังเป็นหน่วยช่วยเหลือให้กับหลายหน่วยงานของ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในการป้องกันและบรรเทาภัยน้ำท่วม ณ ขณะนั้น 

ในปี 2560 เอสบีเค กรุ๊ปได้ก่อสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตเนื้อที่รวม 35 ไร่ เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่เน้นคุณภาพเป็นสำคัญ ผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและ มาตรฐานโครงการจัดสรรที่รับงาน โดยมีผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเสร็จรูป และ รับผลิตตามสเปคงานใหม่ตามแบบที่กำหนด ด้วยความชำนาญเฉพาะทางที่ได้สั่งสมมาและ ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติที่ทำงานได้แม่นยำ ส่วนใหญ่เป็นชิ้นงานคอนกรีตสำเร็จเพื่อยกประกอบที่หน้างาน โดยมีการขนส่งและติดตั้งโดยช่างที่ชำนาญงาน

ในปี 2564 ในช่วงวิกฤติโควิด 2019 เอสบีเค กรุ๊ป ได้รับผลกระทบในการพักงานก่อสร้างอยู่ระยะนึง ไม่สามารถทำงานที่หน้างานในโครงการได้ จึงได้ขยายไลน์การผลิตเสาเข็มที่ใช้มาตาฐานการผลิตที่ดีและใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ ผลิตเพื่อรองรับการใช้งานก่อสร้างที่รับอยู่อีกหนึ่งไลน์การผลิตทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องคุณภาพไปได้อีก

ในปี 2565 เอสบีเค กรุ๊ป ได้ริเริ่มทำคอนกรีตผนังเบาและเป็นมิตรกำสิ่งแวดล้อมเพื่อลดความร้อนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นโครงการศึกษาและพัฒนาร่วมกับสถาบันการศึกษาและทดสอบในโครงการก่อสร้างที่ขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นคำตอบสำรับโครงการในอนาคตที่เชื่อว่าจะตอบโจทย์กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป